กระบก


         กระบก เมล็ดมีรสหวานมันคล้ายถั่วลิสง นิยมนำมาคั่วใช้รับประทานเป็นของว่าง ใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางค์ หรือจะใช้น้ำมันจากเมล็ดทำเป็นสบู่หรือเทียนไขก็ยังได้
เมล็ดกระบกจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างมากมาย เช่น แคลเซียม ธาตุเหล็ก โปรตีน คาร์โบไฮเดรต กรดไขมันชนิดอิ่มตัว ซึ่งสารอาหารเหล่านี้จะช่วยบำรุงกระดูกและฟัน บำรุงสมอง บำรุงหัวใจ ทำให้เจริญอาหาร ช่วยบำรุงไต ช่วยบำรุงเส้นเอ็นและไขข้อ

         เป็นไม้ในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภาคเหนือเรียกมะมื่น ภาคอีสานเรียกหมากบก ภาษาชองเรียกชะอัง สุโขทัยและโคราชเรียกมะลื่น ภาษาส่วยในจังหวัดสุรินทร์เรียกหลักกาย เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบ เปลือกสีเทาอ่อนปนน้ำตาล ใบเดี่ยว เรียงสลับ ผิวเกลี้ยง ดอกขนาดเล็ก มีขนนุ่ม ออกดอกรวมกันเป็นช่อโตที่ปลายกิ่ง สีขาวอมเขียวอ่อน ผลกลมรี ทรงกล้วยไข่ ขนาดใกล้เคียงกับมะม่วงกะล่อนขนาดเล็ก ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่จะเข้มขึ้น สุกเป็นสีเหลืองอมเขียว เนื้อเละ เมล็ดแห้ง

              ลักษณะของกระบก


        ต้นกระบก

 เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ เป็นไม้ผลัดใบ ทรงเรือนยอดเป็นพุ่มแน่นทึบ มีความสูงของต้นประมาณ 10-30 เมตร ลำต้นเปลา เปลือกต้นมีสีเทาอ่อนปนสีน้ำตาลค่อนข้างเรียบ โคนต้นมักขึ้นเป็นพูพอน เจริญเติบโตได้ดีในสภาพดินทุกชนิด ในที่กลางแจ้ง ต้องการน้ำและความชื้นปานกลาง ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด มีเขตการกระจายพันธุ์อยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ ตามป่าดิบแล้ง ป่าชายหาด ป่าเบญจพรรณ ป่าหญ้า และป่าแดง และยังจัดเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดร้อยเอ็ดด้วย

        ใบกระบก

 มีใบเป็นใบเดี่ยวติดเรียงสลับกัน ลักษณะของใบเป็นรูปไข่หรือรูปรีแกมรูปขอบขนานจนถึงรูปใบหอก ใบกว้างประมาณ 2-9 เซนติเมตรและยาวประมาณ 8-20 เซนติเมตร เนื้อใบหนาเกลี้ยงทั้งสองด้าน ขอบใบเรียบ โคนใบมนแหลมหรือเว้าเล็กน้อย สอบเรียวไปทางปลายใบ ปลายใบแหลมทู่ ขอบใบเรียบ มีเส้นแขนงใบประมาณ 8-14 คู่ และมักมีเส้นแขนงปลอมแซมระหว่างกลาง เส้นใบย่อยเป็นแบบขั้นบันได เห็นได้ชัดจากด้านท้องใบ เมื่อใบแห้งจะเห็นเส้นร่างแหชัดทั้งสองด้าน ปลายใบเป็นติ่งมน มีหูใบ หูใบมีลักษณะพิเศษคือ ม้วนหุ้มยอด เรียวแหลม โค้งเล็กน้อยลักษณะเป็นรูปดาบยาวประมาณ 3 เซนติเมตร

[ ชุดเซ็ทสุดคุ้ม 6 ห่อ/แพ็ค ] เม็ดกระบก อบกรอบ ตรา แอพโก้ Aapko
ดูสินค้าได้ที่นี่  
https://bit.ly/2YXlgge




         เมล็ด



  • 1.บำรุงเส้นเอ็น

  • 2.น้ำมันเมล็ดกระบกช่วยบำรุงสมอง

  • 3.ช่วยบำรุงหัวใจ

  • 4.บำรุงไขข้อ

  • 5.ช่วยรักษาริดสีดวงจมูก

  • 6.ช่วยบรรเทาอาการหอบหืด

  • 7.ช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย

  • 6.เนื้อในเมล็ดมีรสร้อน ช่วยบำรุงเส้นเอ็น แก้เส้นเอ็นพิการ บำรุงไขข้อกระดูก แก้ข้อขัดได้ (เนื้อในเมล็ด)

  • 7.ช่วยบำรุงไต

  • 8.ช่วยฆ่าพยาธิในท้อง

  • 9.บำรุงสมอง บำรุงหัวใจ ทำให้เจริญอาหาร





       ลำต้น



  • 1.ต้มน้ำดื่ม รักษาโรคปอดพิการ

  • 2.แก้ไอเป็นเลือด ผสมเหง้าขมิ้นอ้อย รากทองแมว เมล็ดงา ครั่ง มดแดง และเกลือ ต้มน้ำดื่ม แก้เคล็ดยอก

  • 3.ผสมลำต้นเหมือดโลด ใบหวดหม่อน ลำต้นเม่าหลวง และเปลือกต้นมะรุม ตำพอกแก้ปวด





        เนื้อไม้



  • 1.เนื้อไม้ช่วยทำให้เจริญอาหาร

  • 2.ช่วยขับพยาธิในเด็ก

  • 3.ใช้เนื้อไม้ผสมเหง้าสับปะรด งวงตาล รากไผ่รวก นมควายทั้งต้น และสารส้ม ต้มน้ำดื่ม รักษาโรคหนองในประโยชน์ของกระบก


             ประโยชน์ของกระบก


        ต้นกระบกเหมาะสำหรับใช้ปลูกเป็นกลุ่มในพื้นที่โล่ง ๆ ตามสวนสาธารณะต่าง ๆ  ให้เป็นที่อยู่อาศัยและเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่าได้ ไม้กระบกเป็นไม้เนื้อแข็งและหนัก มีเสี้ยนตรงแข็งมาก ไม่แตกแยกเมื่อแห้ง เลื่อยผ่าตบแต่งได้ง่าย สามารถนำมาใช้ทำเป็นเครื่องมือกสิกรรมต่าง ๆ เช่น ครก สาก เครื่องสีข้าว รวมถึงสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในร่ม และยังนำมาทำเป็นฟืน หรือถ่านที่ให้ความร้อนสูงได้ เป็นต้น เนื้อในเมล็ดมีรสหวานมัน นิยมนำมาคั่วรับประทานเป็นของว่าง มีรสคล้ายกับถั่วลิสง เป็นแหล่งอุดมของแคลเซียมและเหล็กชั้นดี จึงช่วยบำรุงกระดูกและฟันได้เป็นอย่างดี

         กระบกเป็นพืชที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์มาตั้งแต่บรรพบุรุษ เม็ดกระบกเมื่อกินทั้งเปลือกจะมีสรรพคุณเป็นยาถ่ายพยาธิ เบื่อพยาธิ เนื้อในสีขาว รสมัน บำรุงไขข้อ กระดูก บำรุงไต แก้เส้นเอ็นพิการและให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และไขมันในเม็ดกระบกนำมาใช้ในการทำเครื่องสำอางค์ และสบู่ สรรพคุณที่กล่าวมาเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดและบอกต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น