ชนิดของโสม

                โสมขาว (White Ginseng) 

        เป็นการนำรากโสมที่ล้างสะอาดแล้วมาตากแดดหรืออบให้แห้งทันที

                โสมแดง (Red Ginseng) 

        เป็นการนำรากโสมที่ตัดเฉพาะส่วนที่ดี ๆ มาล้างให้สะอาด แล้วนำไปอบและฆ่าเชื้อ จนเป็นสีน้ำตาลแดง แล้วจึงนำไปอบให้แห้ง จะได้เป็นสีน้ำตาลแดง เมื่อผ่านกระบวนการอบจะทำให้มีสารสำคัญเพิ่มขึ้นอีก 4 ชนิด จึงทำให้มีราคาแพงมากกว่าโสมขาว

                โสมเกาหลี

        เป็นโสมที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับว่าเป็นโสมที่มีคุณภาพชั้นเยี่ยมของโลก ในทางการแพทย์จีนแผนโบราณ กล่าวว่า โสมเป็นเสมือนยาบำรุงกำลัง เชื่อกันว่าช่วยทำให้อวัยวะสำคัญในร่างการแข็งแรง ช่วยกระตุ้นหัวใจ บำรุงกระเพาะอาหาร ผ่อนคลายประสาท กล้ามเนี้อ ช่วยบำรุงผิวพรรณ เป็นส่วนผสมของยาแผนโบราณรักษาได้หลายโรค รากโสมที่นำมาผ่านขั้นตอนกรรมวิธีในการผลิตต่าง ๆ แล้วจะมีหลายประเภท อาทิ โสมชนิดเป็นราก รากโสมแช่ในน้ำผึ้ง โสมชนิดไซรับ โสมชนิดผง โสมชนิดแคปซูล มีบรรจุภัณฑ์หลากหลายรูปแบบทั้งแบบขวด แบบซอง ดังนั้นก่อนรับประทานควรศึกษาประเภทและวิธีรับประทานให้ละเอียดทุกขั้นตอนเสียก่อน อย่างไรก็ตาม โสมเหมาะกับผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศที่มีอากาศหนาวมากกว่า เมื่อทานแล้วทำให้ร่างกายมีพลังงานเกิดความอบอุ่น โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงไม่ควรรับประทาน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ การรับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ น่าจะเป็นยาอายุวัฒนะที่ดีที่สุดในโลก 

แพ็คเก็จใหม่ ครีมรากโสมสด By เนยสด รากโสมสริตา หัวเชื้อผิวขาว สูตรเร่งผิวขาว ครีมทาผิวขาว ครีมทาผิวกายก่อนนอน ครีมบำรุงผิวกาย โลชั่นผิวขาว โลชั่นบำรุงผิว โลชั่นทาผิว 1 หลอด
สนใจสินค้า คลิกที่นี่ 
https://bit.ly/2KYfxxH

****ประโยชน์ของโสมเกาหลี ******

  1. ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
  2. ช่วยชะลอความแก่
  3. เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย
  4. ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ
  5. เป็นยาบำรุงร่างกาย
  6. เสริมสมรรถภาพทางเพศในเพศชาย
  7. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
  8. ช่วยลดคอเลสเตอรอล
  9. ป้องกันมะเร็ง

                ตังกุย หรือโสมตังกุย

เป็นพืชสมุนไพรที่ได้รับนิยมเป็นอย่างสูงในประเทศ จีน ญี่ปุน และเกาหลี โดยส่วนใหญ่ในตังกุยในการรักษา อาการปวดท้องประจำเดือน, อาการของผู้สูงอายุวัยทอง และอาการอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับผู้หมดประจำเดือน นอกจากนั้นยังใช้ในการรักษา
  1. บรรเทาอาการความดันโลหิตสูง
  2. ช่วยเรื่องอาการมีบุตรยาก
  3. บรรเทาอาการปวดข้อ
  4. รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
  5. รักษาโรคโลหิตจาง
  6. บรรเทาอาการท้องผูก
  7. ป้องกันอาการภูมิแพ้ต่างๆ

            ข้อควรระวังในการใช้โสม

  1. เด็กทารก เด็กเล็ก และหญิงที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร ไม่ควรทานเนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงต่อเด็กได้
  2. ผู้ที่ตับอักเสบ มีเอนไซม์ของตับสูง หรือตับอักเสบจนตัวเหลือง ตาเหลือง ไม่ควรทาน
  3. ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดให้ควรระวัง
  4. ผู้ที่ทานยาลดน้ำตาลในเลือด เนื่องจากอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงเกินไป เพราะโสมก็มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดด้วย ผู้ป่วยเบาหวานจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้โสม
  5. ผู้ที่ทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด เนื่องจากยาทั้งสองอาจมีฤทธิ์เสริมกัน ทำให้มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
  6. ผู้ที่ทานยากระตุ้นหัวใจ ไม่ควรรับประทานร่วมกับโสม
  7. ผู้ที่ทานยาต้านอาการซึมเศร้า ไม่ควรรับประทานร่วมกับโสม
  8. ยาแอสไพรินและสุรา ไม่ควรรับประทานร่วมกับโสม
  9. หลีกเลี่ยงอาหารบางอย่าง อย่ากินร่วมกัน ควรทานหลังจากทานโสมอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เช่น ผลไม้ที่มีกรดสูง ๆ หรือน้ำผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น น้ำมะนาว น้ำส้มค้น
  10. ห้ามทานวิตามินซีร่วมกับโสม เพราะวิตามินซีจะไปทำลายฤทธิ์ที่ควรจะได้จากโสม

                ผลข้างเคียงจากการรับประทานโสม

 อาจมีอาการนอนไม่หลับ หงุดหงิด ซึมเศร้า ความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตต่ำ อาการท้องเสีย อาหารไม่ย่อย ประจำเดือนขาด ผิวหนังเป็นผื่นคัน บวม จึงไม่ควรทานโสมติดต่อกันเป็นเวลานาน