โรคกรดไหลย้อน มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง
โรคนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของหูรูดส่วนปลายของหลอดอาหาร ทำให้ความดันของหลอดอาหารต่ำลงหรือบ่อยกว่าปกติ ซึ่งมักเกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารและยาบางชนิด ภาวะน้ำหนักตัวเกิน ความเครียด หรือเกิดจากความผิดปกติในการบีบตัวของหลอดอาหารหรือกระเพาะอาหาร ทำให้เพิ่มโอกาสการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาหารสู่หลอดอาหารมากขึ้น
- อาการบ่งชี้...ว่าคุณอาจกำลังเป็น “โรคกรดไหลย้อน”
- อาการทางคอหอยและหลอดอาหาร
- กลืนลำบาก ติดขัด คล้ายมีก้อนอยู่ในคอ หรือกลืนเจ็บ
- เจ็บคอ มีเสมหะอยู่ในลำคอ โดยเฉพาะในตอนเช้า หรือระคายคอ ตลอดเวลา
- อาการปวดแสบร้อนบริเวณหน้าอกและลิ้นปี่ บางครั้งอาจร้าวไปที่บริเวณคอได้
- เรอบ่อย คลื่นไส้ คล้ายมีอาหารหรือน้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมาในอกหรือคอ
- รู้สึกเหมือนมีรสขมของน้ำดี หรือรสเปรี้ยวของกรดในคอ หรือปาก
อาการนอกระบบหลอดอาหาร
- มีกลิ่นปาก เสียวฟัน หรือมีฟันผุได้
- เป็นหวัดเรื้อรัง เสียงแหบเรื้อรัง หรือแหบเฉพาะตอนเช้า หรือมีเสียงผิดปกติไปจากเดิม
- มีอาการไอเรื้อรัง รู้สึกสำลักน้ำลาย หรือหายใจไม่ออกในเวลากลางคืน จนอาจทำให้ต้องตื่นกลางดึก
- อาการหอบหืดที่เคยเป็นอยู่ (ถ้ามี) แย่ลง หรือไม่ดีขึ้นจากการใช้ยา เจ็บหน้าอก โรคปอดอักเสบ เป็นๆหายๆ
อาหารที่คนเป็นกรดไหลย้อนควรเลี่ยง
1. อาหารไขมันสูง
ผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนควรงดอาหารไขมันสูง เช่น อาหารทอด ๆ อาหารมัน ช็อกโกแลต ฟาสต์ฟู้ด อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น กะทิ นม เนย ชีส ไอศกรีม หรือไขมันจากเนื้อสัตว์ เป็นต้น เนื่องจากไขมันจากอาหารเหล่านี้จะไปรวมกับกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการจุก แน่น หรือร้อนที่กลางอกได้
2. อาหารที่มีแก๊สมาก
ทั้งน้ำอัดลม ชา กาแฟ โซดา เครื่องดื่มชูกำลัง อาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด อาหารรสเผ็ดจัด ถั่ว เพราะเป็นอาหารที่กระตุ้นการสร้างน้ำย่อยมากขึ้น
3. น้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูจัดเป็นเครื่องปรุงรสที่มีกรดมากเช่นกัน ดังนั้นผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนก็ไม่ควรเติมน้ำส้ม
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ สุรา ไวน์ ค็อกเทล หรือเครื่องดื่มที่ผสมแอลกอฮอล์ทุกชนิด คนเป็นกรดไหลย้อนควรเลี่ยงให้ไกลค่ะ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหล่านี้มีฤทธิ์กระตุ้นให้กล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารเปิดออก ทำให้กรดจากกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับไปที่หลอดอาหารได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
5. ผลไม้ที่มีกรดมาก
ผลไม้ที่คนเป็นกรดไหลย้อนห้ามกินหรือควรเลี่ยงไว้เป็นดีจะเป็นกลุ่มผลไม้ที่มีกรดมาก เช่น ส้ม องุ่น มะนาว เลมอน มะเขือเทศ สับปะรด หรือแม้กระทั่งน้ำผลไม้รสเปรี้ยวจัดและซอสมะเขือเทศก็ควรเลี่ยงด้วยเช่นกัน
6. ผักที่มีกรดแก๊สมาก
เช่น หอมหัวใหญ่ดิบ กระเทียม พริก พริกไทย หอมแดง เปปเปอร์มินต์ หรือสะระแหน่ รวมทั้งผักดิบทุกชนิดก็ควรเลี่ยงนะคะ เพราะผักเหล่านี้จะไปเพิ่มกรดแก๊สในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก
7. อาหารหมักดอง
อาหารหมักดองอย่างปลาร้า หน่อไม้ดอง ผักกาดดอง ผลไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม กิมจิ ซูชิบางชนิดที่มีผักดอง ก็มีส่วนเพิ่มแก๊สในกระเพาะอาหาร ก่อให้เกิดอาการจุดเสียดแน่นท้องได้
8. อาหารเสริมไขมันสูง
แม้แต่อาหารเสริมบางชนิดก็ควรเลี่ยงค่ะ โดยคนเป็นกรดไหลย้อนจะไม่แนะนำให้กินน้ำมันตับปลา สารสกัดจากกระเทียม วิตามินอี หรือวิตามินซีก็เสี่ยงเพิ่มกรดในกระเพาะด้วย
9. หมากฝรั่ง
การเคี้ยวหมากฝรั่งจะเพิ่มการหลั่งน้ำลาย ทำให้เราต้องกลืนน้ำลายลงท้องมากขึ้น ซึ่งก็เท่ากับจะได้กลืนลมลงกระเพาะอาหารมากขึ้นด้วย ดังนั้นคนเป็นกรดไหลย้อนจึงไม่ควรเคี้ยวหมากฝรั่งบ่อย ๆ นะคะ แต่นาน ๆ ครั้งอาจจะพอไหว
เป็นกรดไหลย้อน ควรกินอะไรดี
1. อาหารไขมันต่ำ
อาหารไขมันต่ำก็อย่างเช่น เนื้อปลา ไก่ ไข่ขาว หรือพวกนมไขมันต่ำ หรือน้ำเต้าหู้ก็ดื่มได้
2. อาหารไฟเบอร์สูง
อาหารที่มีไฟเบอร์สูงจะย่อยง่าย อย่างธัญพืช ข้าวโอ๊ต โฮลวีต โฮลเกรน ผัก ผลไม้ เป็นต้น
3. ผลไม้สำหรับคนเป็นกรดไหลย้อน
คนเป็นกรดไหลย้อนไม่ควรกินผลไม้ที่มีกรดมาก แล้วเป็นกรดไหลย้อนจะกินผลไม้อะไรได้บ้าง ตอบได้ว่าผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนสามารถกินกล้วย แตงโม แคนตาลูป แอปเปิล พีช ลูกแพร์ อะโวคาโด หรือผลไม้รสหวานชนิดอื่น ๆ ได้ค่ะ
4. น้ำขิง
ขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน สามารถช่วยขับลม ช่วยย่อย กระตุ้นการทำงานของลำไส้ ช่วยลดอาการท้องอืดหรืออาการกรด-แก๊สในกระเพาะเกินได้
5. ไขมันดี
ร่างกายคนเราต้องการไขมันเป็นพลังงาน ดังนั้นคนเป็นโรคกรดไหลย้อนก็ไม่ควรงดไขมันด้วยเช่นกัน ทว่าไขมันที่คนเป็นกรดไหลย้อนกินได้ แนะนำเป็นไขมันชนิดดีจากอะโวคาโด เมล็ดแฟลกซ์ น้ำมันมะกอก น้ำมันงา หรือน้ำมันดอกทานตะวัน เป็นต้น
0 ความคิดเห็น